วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Moore's law
Moore's law คืออะไร
Moore' law คืออะไร
กฎของมัวร์ (Mooer' low) คือ
กฎที่อธิบายแนวโน้มของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ในระยะยาวมีความว่า
จำนวนทรานซิสเตอร์ที่สามารถบรรจุลงในชิพจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ สองปี กอร์ดอน
มัวร์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล ได้ใช้หลักการสังเกตตั้งกฎของมัวร์ (Moore’s
law) ขึ้น ซึ่งเขาบันทึกไว้ว่า ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม
กฎของมัวร์
ทฤษฎีของมัวร์ได้กล่าวไว้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและความซับซ้อนของเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถผลิตไอซีที่มีความหนาแน่นได้เป็นสองเท่าทุก
ๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ความก้าวหน้าอื่น ๆ
อีกหลายอย่างก็เป็นไปตามกฎของมัวร์
การสร้างทรานซิสเตอร์มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง บริษัท แฟร์ซายด์ เซมิคอนดัคเตอร์เป็นบริษัทแรกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีการผลิต ทรานซิสเตอร์แบบplanar หรือเจือสารเข้าทางแนวราบ เทคโนโลยีนี้เป็นต้นแบบของการสร้างไอซีในเวลาต่อมา จากหลักฐานที่กล่าวอ้างไว้พบว่า บริษัทแฟร์ซายด์ได้ผลิตพลาน่าทรานซิสเตอร์ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2502 และบริษัทเท็กซัสอินสตรูเมนต์ได้ผลิตไอซีได้ในเวลาต่อมา และกอร์ดอนมัวร์ก็ได้กล่าวไว้ว่า จุดเริ่มต้นของกฎของมัวร์เริ่มต้นจากการเริ่มมีพลาน่าทรานซิสเตอร์
พัฒนาการคอมพิวเตอร์
อดีต ปัจุบัน อนาคต ยุคสมัยของการใช้คอมพิวเตอร์บนพื้นฐานของการพัฒนาสารกึ่งตัวนำก็เริ่มก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด หากย้อนไปในปี ค.ศ. 1951 ซึ่งถือได้ว่า เป็นยุคเริ่มต้นเครื่องคอมพิวเตอร์สมัยนั้นคงเทียบได้ยากกับเครื่องในปัจจุบันโดยเฉพาะการพัฒนายังเน้นให้ใช้ง่าย มียูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่ดี มีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย
คําว่า “กฎของมัวร์”
นั้นถูกเรียกโดยศาสตราจารย์
Caltech นามว่า
Carver Mead ซึ่งกล่าวว่า
จํานวนทรานซิสเตอร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆหนึ่งปี ในช่วงปี 1965
ต่อมามัวร์จึงได้เปลี่ยนรูปกฎเพิ่มขึ้นสองเท่าในทุกๆสองปี ในปี 1975
วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
การบ้าน วันที่ 2 ก.ค 2556
รหัส ASCII (American Standard Code
for Information Interchange)
รหัสแอสกี เป็นรหัสที่นิยมใช้กันมาก
จนสามมารถนับได้ว่าเป็นรหัสมาตรฐานที่ใช้ใน การสื่อสารข้อมูล ( Data
Communications) ซึ่งจำเป็นต้องใช้รหัสการแทนข้อมูลเป็นระบบเดียวกัน
เพื่อให้สามารถรับ - ส่งข้อมูลได้ในความหมายเดียวกัน รหัสแอสกีใช้เลขฐานสอง 8
หลักแทนข้อมูลหนึ่งตัวเช่นเดียวกับรหัสเอบซีดิค นั่นคือ 1 ไบต์มีความยาวเท่ากับ 8
บิต รวมทั้งมีการแบ่งรหัสออกเป็นสองส่วน คือ โซนบิตและนิวเมอริกบิตเช่นเดียวกัน
รหัส Unicode
เป็นรหัสแบบใหม่ล่าสุด
ถูกสร้างขึ้นมาเนื่องจากรหัสขนาด 8
บิตซึ่งมีรูปแบบเพียง 256 รูปแบบ
ไม่สามารถแทนภาษาเขียนแบบต่าง ๆ ในโลกได้ครบหมด โดยเฉพาะภาษาที่เป็นภาษาภาพ เช่น
ภาษาจีนหรือภาษาญี่ปุ่นเพียงภาษาเดียวก็มีจำนวนรูปแบบเกินกว่า 256 ตัวแล้ว UniCode จะเป็นระบบรหัสที่เป็น 16 บิต
จึงแทนตัวอักษรได้มากถึง 65,536 ตัว
ซึ่งเพียงพอสำหรับตัวอักษรและสัญลักษณ์กราฟฟิกโดยทั่วไป
รวมทั้งสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ ในปัจจุบันระบบ UniCode มีใช้ในระบบปฏิบัติการ Window NT ระบบปฏิบัติการ UNIX
บางรุ่น รวมทั้งมีการสนับสนุนชนิดข้อมูลแบบ UniCode ในภาษา JAVA ด้วย
WANITA SRANGMUANG
W 0101 0111
A 0100 0001
N 0100 1110
I 0100 1001
T 0101 0100
A 0100 0001
S 0101 0011
R 0101 0010
A 0100 0001
N 0100 1110
G 0100 0111
M 0100 1101
U 0101 0101
A 0100 0001
N 0100 1110
G 0100 0111
ทั้งหมดมี 16 ตัวอักษร 13
ไบต์ 1 byte มี 8 bit นำ 16*8 = 128 bit
ดังนั้นชื่อ Wanita srangmuang
มี 128 bit 16 byte
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
บิตตรวจสอบ (Parity Bit)
บิตตรวจสอบ (Parity Bit)
บิตตรวจสอบ หรือพาริตี้บิต เป็นบิตที่เพิ่มเติมมาต่อท้ายอีก 1 บิต ถือเป็นบิตพิเศษที่ใช้สำหรับตรวจสอบความแม่นยำและความถูกต้องของข้อมูลที่จะถูกจัดเก็บลงในคอมพิวเตอร์ สำหรับบิตตรวจสอบจะมีวิธีการตรวจสอบอยู่ 2 วิธี ได้แก่
1. การตรวจตรวจสอบบิตภาวะคู่ (Even Parity)
2. การตรวจสอบบิตภาวะคี่ (Odd Parity)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)