เพลง หนี Klear
เหตุผลที่ชอบ ชอบความหมายของเพลง
วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ข่าวที่เป็นปัจจุบันของอินเตอร์เน็ตและการสือสารข้อมูล
เทคโนโลยี 4G
LTE (Long Term Evolution) เริ่มเข้ามามีบทบาทในการสื่อสารมากยึ่งขึ้น
โดยเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
ความเร็วสูงสุดในการดาว์นโหลด 100 Mbps ซึ่งจะทำให้ดาวน์โหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 3 เท่า
อัพโหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 5 เท่า และสำหรับในประเทศไทยก็มีผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง true
move H ได้เดินหน้าเปิดให้บริการ 4G LTE เป็นรายแรก
พร้อมรองรับการใช้งานบน iPhone 5 ได้แล้ววันนี้
วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Moore's law
Moore's law คืออะไร
Moore' law คืออะไร
กฎของมัวร์ (Mooer' low) คือ
กฎที่อธิบายแนวโน้มของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ในระยะยาวมีความว่า
จำนวนทรานซิสเตอร์ที่สามารถบรรจุลงในชิพจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ สองปี กอร์ดอน
มัวร์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล ได้ใช้หลักการสังเกตตั้งกฎของมัวร์ (Moore’s
law) ขึ้น ซึ่งเขาบันทึกไว้ว่า ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม
กฎของมัวร์
ทฤษฎีของมัวร์ได้กล่าวไว้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและความซับซ้อนของเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถผลิตไอซีที่มีความหนาแน่นได้เป็นสองเท่าทุก
ๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ความก้าวหน้าอื่น ๆ
อีกหลายอย่างก็เป็นไปตามกฎของมัวร์
การสร้างทรานซิสเตอร์มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง บริษัท แฟร์ซายด์ เซมิคอนดัคเตอร์เป็นบริษัทแรกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีการผลิต ทรานซิสเตอร์แบบplanar หรือเจือสารเข้าทางแนวราบ เทคโนโลยีนี้เป็นต้นแบบของการสร้างไอซีในเวลาต่อมา จากหลักฐานที่กล่าวอ้างไว้พบว่า บริษัทแฟร์ซายด์ได้ผลิตพลาน่าทรานซิสเตอร์ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2502 และบริษัทเท็กซัสอินสตรูเมนต์ได้ผลิตไอซีได้ในเวลาต่อมา และกอร์ดอนมัวร์ก็ได้กล่าวไว้ว่า จุดเริ่มต้นของกฎของมัวร์เริ่มต้นจากการเริ่มมีพลาน่าทรานซิสเตอร์
พัฒนาการคอมพิวเตอร์
อดีต ปัจุบัน อนาคต ยุคสมัยของการใช้คอมพิวเตอร์บนพื้นฐานของการพัฒนาสารกึ่งตัวนำก็เริ่มก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด หากย้อนไปในปี ค.ศ. 1951 ซึ่งถือได้ว่า เป็นยุคเริ่มต้นเครื่องคอมพิวเตอร์สมัยนั้นคงเทียบได้ยากกับเครื่องในปัจจุบันโดยเฉพาะการพัฒนายังเน้นให้ใช้ง่าย มียูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่ดี มีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย
คําว่า “กฎของมัวร์”
นั้นถูกเรียกโดยศาสตราจารย์
Caltech นามว่า
Carver Mead ซึ่งกล่าวว่า
จํานวนทรานซิสเตอร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆหนึ่งปี ในช่วงปี 1965
ต่อมามัวร์จึงได้เปลี่ยนรูปกฎเพิ่มขึ้นสองเท่าในทุกๆสองปี ในปี 1975
วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
การบ้าน วันที่ 2 ก.ค 2556
รหัส ASCII (American Standard Code
for Information Interchange)
รหัสแอสกี เป็นรหัสที่นิยมใช้กันมาก
จนสามมารถนับได้ว่าเป็นรหัสมาตรฐานที่ใช้ใน การสื่อสารข้อมูล ( Data
Communications) ซึ่งจำเป็นต้องใช้รหัสการแทนข้อมูลเป็นระบบเดียวกัน
เพื่อให้สามารถรับ - ส่งข้อมูลได้ในความหมายเดียวกัน รหัสแอสกีใช้เลขฐานสอง 8
หลักแทนข้อมูลหนึ่งตัวเช่นเดียวกับรหัสเอบซีดิค นั่นคือ 1 ไบต์มีความยาวเท่ากับ 8
บิต รวมทั้งมีการแบ่งรหัสออกเป็นสองส่วน คือ โซนบิตและนิวเมอริกบิตเช่นเดียวกัน
รหัส Unicode
เป็นรหัสแบบใหม่ล่าสุด
ถูกสร้างขึ้นมาเนื่องจากรหัสขนาด 8
บิตซึ่งมีรูปแบบเพียง 256 รูปแบบ
ไม่สามารถแทนภาษาเขียนแบบต่าง ๆ ในโลกได้ครบหมด โดยเฉพาะภาษาที่เป็นภาษาภาพ เช่น
ภาษาจีนหรือภาษาญี่ปุ่นเพียงภาษาเดียวก็มีจำนวนรูปแบบเกินกว่า 256 ตัวแล้ว UniCode จะเป็นระบบรหัสที่เป็น 16 บิต
จึงแทนตัวอักษรได้มากถึง 65,536 ตัว
ซึ่งเพียงพอสำหรับตัวอักษรและสัญลักษณ์กราฟฟิกโดยทั่วไป
รวมทั้งสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ ในปัจจุบันระบบ UniCode มีใช้ในระบบปฏิบัติการ Window NT ระบบปฏิบัติการ UNIX
บางรุ่น รวมทั้งมีการสนับสนุนชนิดข้อมูลแบบ UniCode ในภาษา JAVA ด้วย
WANITA SRANGMUANG
W 0101 0111
A 0100 0001
N 0100 1110
I 0100 1001
T 0101 0100
A 0100 0001
S 0101 0011
R 0101 0010
A 0100 0001
N 0100 1110
G 0100 0111
M 0100 1101
U 0101 0101
A 0100 0001
N 0100 1110
G 0100 0111
ทั้งหมดมี 16 ตัวอักษร 13
ไบต์ 1 byte มี 8 bit นำ 16*8 = 128 bit
ดังนั้นชื่อ Wanita srangmuang
มี 128 bit 16 byte
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
บิตตรวจสอบ (Parity Bit)
บิตตรวจสอบ (Parity Bit)
บิตตรวจสอบ หรือพาริตี้บิต เป็นบิตที่เพิ่มเติมมาต่อท้ายอีก 1 บิต ถือเป็นบิตพิเศษที่ใช้สำหรับตรวจสอบความแม่นยำและความถูกต้องของข้อมูลที่จะถูกจัดเก็บลงในคอมพิวเตอร์ สำหรับบิตตรวจสอบจะมีวิธีการตรวจสอบอยู่ 2 วิธี ได้แก่
1. การตรวจตรวจสอบบิตภาวะคู่ (Even Parity)
2. การตรวจสอบบิตภาวะคี่ (Odd Parity)
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ยุคของคอมพิวเตอร์
ยุคของคอมพิวเตอร์ มี 5 ยุค ดังนี้ ...
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกำหนดชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
ทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งคอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมากทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5
คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกำหนดชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
ทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งคอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมากทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5
คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง
วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ชาร์ลส แบบเบจ
ในทางคณิตศาสตร์ ชาร์ลส แบบเบจ เน้นศึกษาด้านแคลคูลัสเป็นพิเศษ. ปี ค.ศ. 1816 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Fellow ของ Royal Society. ปี ค.ศ. 1820 เค้าตั้งชมรมด้านดาราศาสตร์ขึ้น พร้อมๆ กับเริ่มทำงานวิจัยสำคัญของเค้าในยุคต้น ที่ทำให้เค้าโด่งดังมากคือ Difference Engine (ใช้ Newton 's method of successive differences). ในปี ค.ศ. 1828 แบบเบจได้รับแต่งตั้งให้เป็น the Lucasian Chair of Mathematics at Cambridge (เหมือนกับ เซอร์ ไอแซค นิวตัน และ สตีเฟ่น ฮอว์คิง) ต่อมา แบบเบจขยายงานมาศึกษาเครื่องวิเคราะห์ (Analytical Engine) เพื่อสร้างเป็น เครื่องจักรที่สามารถรองรับการคำนวณทุกชนิด (ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์) แต่ก็เป็นเพียงทฤษฏีเท่านั้น เพราะเค้าไม่สามารถสร้างออกมาในช่วงที่เค้ามีชีวิตอยู่ เนื่องจากมีคนไม่เห็นด้วยมากมาย เพราะความคิดเค้าทันสมัยเกินกว่าเทคโนโลยีในยุคนั้น จนทุกๆ คนคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ จึงโดนตัดงบวิจัยในปี ค.ศ. 1832. แต่แบบเบจก็ฝืนทำต่อแบบไม่มีงบ จนทำไม่ไหว จนต้องปิดโครงการนี้ไป ในปี ค.ศ. 1842.
เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Lady Augusta Ada Byron, Countess of Lovelace) โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก
เอดา เลิฟเลซ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่น่าเรียนรู้ชีวประวัติท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้หญิงที่เก่งทั้งในด้านกาพย์กลอนและคณิตศาสตร์ และได้รับยกย่องให้เป็นนักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลกจากผลงานที่ท่านช่วยให้เครื่องจักร analytical engine ที่ออกแบบโดย ชาร์ลส์ แบบเบจ สามารถรับโปรแกรมและทำงานตามคำสั่งในโปรแกรมได้ โดยท่านได้เสนอเทคนิคการเขียนโปรแกรมแบบวนรอบซ้ำ ๆ ที่เรียกว่า loop การเขียนโปรแกรมแบบวนรอบบนี้สำคัญมาก เพราะถ้าหากไม่ใช้แนวคิดนี้แล้วโปรแกรมที่เขียนจะมีความยาวมาก และผิดพลาดได้ง่ายและการใช้โปรแกรมย่อย (subroutine) เพื่อคำนวณฟังก์ชันก์ย่อยที่ได้ใช้งานบ่อย ๆ ฝังอยู่ในโปรแกรมหลัก โปรแกรมหลักสามารถเรียกใช้โปรแกรมย่อยทำงานได้เลยโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมใหม่ ซึ่งใน
ปัจจบนนี้ทุกภาษาต่างก็มีความสามารถในการวนซึ้า และการใช้โปรแกรมย่อย
Herman Hollerith 's บิดามารดาได้อพยพไปสหรัฐอเมริกาจากประเทศเยอรมนีใน 1,848 หลังจาก disturbances ทางการเมืองในประเทศที่. โรงเรียนไม่ได้อย่างง่ายสำหรับ Herman แม้ว่าที่เขาฉลาด. Ashurst recounts: ใน 1,882 Hollerith ร่วม Massachusetts Institute of Technology ซึ่งเขาสอนวิศวกรรมเครื่องกล. ขณะนี้เขาตรวจสอบคำแนะนำ Billings , ตรวจสอบวิธีการที่ Jacquard กี่ทำงานร่วมกับดูจะพบว่ามันสามารถใช้ในงานสำมะโนประชากร. เขาพบว่าในที่สุดเคารพในหน้าที่ของ Jacquard กี่ออกห่างจากสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ในการทำงานสำมะโนประชากรแต่เขารู้ว่าบัตร punched เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูล. แนวคิดลหลงเขาอีกหนึ่งวันในการเดินทางรถไฟเป็นเขาจับตาดูตั๋วเก็บตั๋วชกมวย. นี่คือวิธีง่ายๆในการชกต่อยข้อมูลไปยังบัตร.
Alan Mathison Turing(อลัน มาธิสัน ทัวริง)
เกิด วันที่ 23 มิ.ย. 1912 ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ เสียชีวิต วันที่ 7 มิ.ย. 1954 ที่เมืองวิล์มสโล อังกฤษ
ผลงาน : ทฤษฎีความสามารถคำนวณได้ของคอมพิวเตอร์ (Computability) , การทดสอบความฉลาดของคอมพิวเตอร์ (Turing test), เครื่องจักรทัวริง (universal Turing machine)
อลัน ทัวริง (Alan Turing) คิดค้นเครื่องจักรทัวริง (Turing machine) เครื่องมือในฝันที่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง ถ้าเพียงแต่เราจะใส่วิธีทำลงไป ซึ่งกลายเป็นต้นแบบแรกเริ่มของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ทัวริงแมชชีนเป็นเครื่องมือมหัศจรรย์ เพราะเป็นครั้งแรกที่เราแยก "อุปกรณ์" ออกจาก "ความสามารถของอุปกรณ์" นั้นได้ การทำงานของเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดมาล่วงหน้า แต่ขึ้นอยู่กับวิธีทำหรืออัลกอริทึมที่แนบมาด้วย เครื่องจักรทัวริงนั้นไม่ยุ่งยาก ทำงานเป็นเหมือนเครื่องอ่านม้วนกระดาษยาวๆ (หรือเทป) ลองคิดดูว่าเรามีกระดาษเก็บข้อมูลยาวๆ ไม่สิ้นสุด บนกระดาษจะบันทึกเลขสองตัวคือ ศูนย์และหนึ่ง เช่น ...0011011000100... ทัวริงแมชชีนมีหัวอ่านค่าในกระดาษนี้ ที่บอกว่าตอนนี้กำลังอ่านเลขตัวไหนอยู่ตรงไหน และรู้ว่าตอนนี้อยู่ในสถานะใด (ทัวริงแมชชีนมีได้หลายสถานะ แล้วแต่ข้อมูลที่กำลังอ่านอยู่)
Dr. John V. Atanasoff
ดร. จอห์น วี. อะทานาซอฟฟ
ดร. จอห์น วี. อะทานาซอฟฟ
ผลงานเด่น : ABC ,คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรก
จอห์น วี. อะทานาซอฟฟ์ (John V. Atanasoff) เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ.1903 ที่เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ท่านเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นคนแรก คือเครื่อง ABC เมื่อปี ค.ศ. 1937 (ก่อนหน้านี้เป็นคอมพิวเตอร์แบบเครื่องจักรกล) ในขณะนั้นเขาอาจไม่รู้ว่าผลงานของเขาจะมีบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ ในอนาคตมากมายขนาดนี้ เขาได้เปิดประตูสู่ยุคคอมพิวเตอร์ให้กับคนรุ่นหลังได้พัฒนาต่อยอดมาจนกลายเป็น คอมพิวเตอร์ในปัจุบัน
ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1995
จอห์น วี. อะทานาซอฟฟ์ (John V. Atanasoff) เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ.1903 ที่เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ท่านเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นคนแรก คือเครื่อง ABC เมื่อปี ค.ศ. 1937 (ก่อนหน้านี้เป็นคอมพิวเตอร์แบบเครื่องจักรกล) ในขณะนั้นเขาอาจไม่รู้ว่าผลงานของเขาจะมีบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ ในอนาคตมากมายขนาดนี้ เขาได้เปิดประตูสู่ยุคคอมพิวเตอร์ให้กับคนรุ่นหลังได้พัฒนาต่อยอดมาจนกลายเป็น คอมพิวเตอร์ในปัจุบัน
ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1995
Bill Gates บิล เกตส์
เกิดวันที่ 20 ตุลาคม 1955
ผลงานของบิลเกตส์ และบริษัทไมโครซอฟต์: ภาษาเบสิค ระบบปฏิบัติการดอส (DOS) ระบบปฏิบัตการวินโดวส์ (Windows)
บิล เกตส์ (Bill Gates) เกิดเมื่อปี 1955 ที่เมืองซีแอทเทิล กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ที่ครองตลาดผู้ใช้มากที่สุดคือบริษัทไมโครซอฟต์ และเป็นหนึ่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าบริษัท ซึ่งเขาได้ร่วมกับพอล อัลเลน (Paul Allen) ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1974 ด้วยวัยเพียง 19 ปี แต่พอล อัลเลนได้ออกไปทำธุรกิจของตนเองเมื่อปี 1983
การประสบความสำเร็จยังยิ่งใหญ่ของบริษัทไมโครซอฟต์ มาจากการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายและบริษัทได้ผลิตซอฟต์แวร์เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งานไมโครคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ (ดังชื่อบริษัท "Microsoft" มาจากคำว่า "microcomputer" + "software") เช่น ระบบปฏิบัติการ MS-DOS และ Windows รุ่นต่าง ๆ โปรแกรมเว็บราวเซอร์ IE (Internet Explorer) ภาษาเบสิค รวมถึงภาษา VB (Visual Basic) และอื่น ๆ อีกมากมาย
เกิดวันที่ 20 ตุลาคม 1955
ผลงานของบิลเกตส์ และบริษัทไมโครซอฟต์: ภาษาเบสิค ระบบปฏิบัติการดอส (DOS) ระบบปฏิบัตการวินโดวส์ (Windows)
บิล เกตส์ (Bill Gates) เกิดเมื่อปี 1955 ที่เมืองซีแอทเทิล กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ที่ครองตลาดผู้ใช้มากที่สุดคือบริษัทไมโครซอฟต์ และเป็นหนึ่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าบริษัท ซึ่งเขาได้ร่วมกับพอล อัลเลน (Paul Allen) ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1974 ด้วยวัยเพียง 19 ปี แต่พอล อัลเลนได้ออกไปทำธุรกิจของตนเองเมื่อปี 1983
การประสบความสำเร็จยังยิ่งใหญ่ของบริษัทไมโครซอฟต์ มาจากการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายและบริษัทได้ผลิตซอฟต์แวร์เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งานไมโครคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ (ดังชื่อบริษัท "Microsoft" มาจากคำว่า "microcomputer" + "software") เช่น ระบบปฏิบัติการ MS-DOS และ Windows รุ่นต่าง ๆ โปรแกรมเว็บราวเซอร์ IE (Internet Explorer) ภาษาเบสิค รวมถึงภาษา VB (Visual Basic) และอื่น ๆ อีกมากมาย
จอห์น วอน นอยแมน
เกิดวันที่ 23 ธันวาคม 1903 ที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
เสียชีวิต วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1957 ที่สหรัฐอเมริกา
ผลงาน : สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ แบบนอยแมน
จอห์น วอน นอยแมน (John von Neumann) เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี มีผลงานสำคัญในหลายสาขา ทั้ง ควอนตัมฟิสิกส์, ทฤษฎีเซ็ต, วิทยาการคอมพิวเตอร์, เศรษฐศาสตร์
นอยแมนนั้น ได้รับการขนานนามว่าเป็น บิดาของทฤษฎีเกม เขาได้ตีพิมพ์หนังสือ Theory of Games and Economic Behavior โดยร่วมเขียนกับออสการ์ มอร์แกนสเติร์น (Oskar Morgenstern) ในปี ค.ศ. 1944 เขาได้คิดหลักการ "MAD" (mutually assured destruction) ซึ่งเป็นหลักการซึ่งใช้เป็นหลักสำคัญ ในการวางแผนกลยุทธ์ทางด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น
สตีฟเวน พอล จ๊อบส์
เกิดวันที่ 24 ก.พ. 1955
ผลงาน: ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
สตีฟเวน พอล จ๊อบส์ (Steven Paul Jobs) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง (ร่วมกับ Steve Wozniak) บริษัทแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer) นอกจากนี้เขาเป็นหัวหน้าบริษัท Pixar ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพการ์ตูนเคลื่อนไหว (เช่น ภาพยนตร์แอนนิเมชันเรื่อง Monster Ink, Shark Tale)
แต่สิ่งสำคัญต่อวงการคอมพิวเตอร์ที่เขาได้บุกเบิกคือการสร้างคอมพิวเตอร์แอบเปิ้ล 2 (Apple II) เขาได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของการสั่งงานคอมพิวเตอร์ผ่านทางภาพ หรือ GUI (graphic user interface)ด้วยการใช้เมาส์ ซึ่งได้มีการใช้ครั้งแรกที่บริษัท Xerox PARC
ดร.จอห์น ดับลิว มอชลีย์ (John W. Mauchly) และ เจ เพรสเพอร์ เอคเกิรต (J. Prespern Eckert)
ENIAC ย่อมาจาก Electronics Numerical Integrator and Computer ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย ดร.จอห์น ดับลิว มอชลีย์ (John W. Mauchly) และ เจ เพรสเพอร์ เอคเกิรต (J. Prespern Eckert) ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนจากกองทัพสหรับอเมริกา ซึ่งต้องการสร้างระบบคำนวณวิถีกระสุนปืนใหญ่
เครื่อง ENIAC เป็นเครื่องคำนวณทางอิเลคโทรนิกส์เครื่องแรกที่ได้รับการยอมรับว่ามันคือเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก สร้างขึ้นจากหลอดสุญญากาศจำนวน 18,000 หลอด มีขนาดใหญ่มาก ต้องใช้พื้นที่วางระบบถึง 15,000 ตารางฟุต หนักร่วม 30 ตัน กินไฟ 140 กิโลวัตต์ (ในขณะที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันกินไฟราว 500 วัตต์) เครื่อง ENIAC นี้สร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของเครื่อง ABC (Atanasoff-Berry Computer) ซึ่งผลิตโดย Dr. John Vincent Atanasoff และ Clifford Berry
ดร. เท็ด ฮอฟฟ์ (Ted Hoff) แห่งบริษัทอินเทล (Intel Corporation) ได้พัฒนาชิพที่มีขนาดเล็กมาก จึงได้ชื่อว่าไมโครโพรเซสเซอร์ ชื่อรุ่นคือ Intel 4004 เป็นหน่วยประมวลผลขนาดเล็กที่สามารถโปรแกรมได้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิพขนาดเล็กนี้เจึงถูกรียกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ด้วย
Konrad Zuse
ค.ศ. 1941 เป็นครั้งแรกที่โลกได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่สามารถตั้งโปรแกรมได้อย่างอิสระ ผู้พัฒนาคือ Konrad Zuse และชื่อคอมพิวเตอร์คือ Z1 Computer
Prof.Howard H.Aiken
เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1900 ในนิวเจอร์ซี่ย์ฮาวเวิร์ดเอชไอไปศึกษาฟิสิกส์และสอนเป็นเวลาที่ Harvard ไอมากับความคิดของการสร้างเครื่องอัตโนมัติที่จะจัดการขนาดใหญ่การคำนวณ ใกล้เคียงกับ IBM, ไอและกลุ่มของวิศวกรที่สร้างขึ้น 1 มาร์คซึ่งออกมาในปี 1944Mark II ถูกเปิดตัวสามปีต่อมา ไอเสียชีวิต 14 มีนาคม 1973
Prof.Howard H.Aiken
เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1900 ในนิวเจอร์ซี่ย์ฮาวเวิร์ดเอชไอไปศึกษาฟิสิกส์และสอนเป็นเวลาที่ Harvard ไอมากับความคิดของการสร้างเครื่องอัตโนมัติที่จะจัดการขนาดใหญ่การคำนวณ ใกล้เคียงกับ IBM, ไอและกลุ่มของวิศวกรที่สร้างขึ้น 1 มาร์คซึ่งออกมาในปี 1944Mark II ถูกเปิดตัวสามปีต่อมา ไอเสียชีวิต 14 มีนาคม 1973
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556
สถานที่ท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว จังหวัด ภูเก็ต O w o
เรามาดูกันดีกว่า ว่าจังหวัดภูเก็ตมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ???
ภูเก็ต
" ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม "
สถานที่ท่องเที่ยว ภูเก็ต
อนุสาวรีย์วีรสตรี
อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 12 กิโลเมตร เป็นอนุสาวรีย์ที่ชาวภูเก็ตร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี 2509 เพื่อเชิดชูเกียรติวีรสตรีผู้กล้าหาญแห่งเมืองถลาง
หาดกมลา
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 26 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร เลี้ยวซ้ายผ่านหาดสุรินทร์ แหลมสิงห์ ก็จะถึงหาดกมลาเป็นแนวหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยว
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 26 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร เลี้ยวซ้ายผ่านหาดสุรินทร์ แหลมสิงห์ ก็จะถึงหาดกมลาเป็นแนวหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักบริการนักท่องเที่ยว
สวนสนุกทางน้ำ สแปลช จังเกิ้ล
สวนสนุกทางน้ำ สแปลช จังเกิ้ล สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ดี ๆ ในวันหยุดพักผ่อน และสร้างความสนุกสนานประทับใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นภูเก็ต ความสนุกของเครื่องเล่นภายในสวนน้ำ เริ่มต้นที่ เลซี่ ริเวอร์ ผจญภัยกับล่องน้ำที่มีความยาวถึง 335 เมตร เครื่องเล่นจำลองคลื่นอย่าง เวฟพูล หรือ อควา เพลย์พูล รวมทั้งเครื่องเล่นไฮไลท์ อย่าง บูมเมอแรงโก้ และ ซุปเปอร์โบว์ล รวมถึงเครื่องเล่นทางน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ ถังน้ำขนาดใหญ่ ปืนฉีดน้ำ หลากหลายขนาดต่างกัน เป็นต้น
สวนสนุกทางน้ำ สแปลช จังเกิ้ล สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ดี ๆ ในวันหยุดพักผ่อน และสร้างความสนุกสนานประทับใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นภูเก็ต ความสนุกของเครื่องเล่นภายในสวนน้ำ เริ่มต้นที่ เลซี่ ริเวอร์ ผจญภัยกับล่องน้ำที่มีความยาวถึง 335 เมตร เครื่องเล่นจำลองคลื่นอย่าง เวฟพูล หรือ อควา เพลย์พูล รวมทั้งเครื่องเล่นไฮไลท์ อย่าง บูมเมอแรงโก้ และ ซุปเปอร์โบว์ล รวมถึงเครื่องเล่นทางน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ ถังน้ำขนาดใหญ่ ปืนฉีดน้ำ หลากหลายขนาดต่างกัน เป็นต้น
ตึกโบราณ
ในตัวเมืองภูเก็ตนั้น ส่วนมากจะเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ อาทิ อาคารปัจจุบันที่ทำการศาลากลางจังหวัดศาลจังหวัด ธนาคารนครหลวงไทย นอกจากนี้ ยังมีอาคารบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนมาผสมผสาน เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบ "ชิโน - โปรตุกีส" (Chinois Postugess) คืออาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก สามารถหาชมได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระ
** สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ น่าไปเที่ยวทั้งนั้นเลยใช่มั้ยล่า จริง ๆ แล้วในจังหวัดภูเก็ต ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลยนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าสุดยอดขนาดไหน คุณต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองค่ะ **
Credit : http://travel.kapook.com/view1009.html
แนะนำตัวค่ะ !
สวัสดีค่ะ : D
ชื่อ นางสาว วานิตา สร้างเมือง ชื่อเล่น น้องวา น่ะค่ะ
วันเกิด 17 มกราคม 2538 อายุ 18 ปีค่ะ
กำลังศึกษาอยุ่ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
ที่อยู่ 53/2 ม.5 ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000
G-mail : neko.wa08@gmail.com
คติประจำใจ :: อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่งหมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)